เกิดมาทั้งที สาวๆอย่างเราก็อยากเป็นเจ้าหญิงในวันแต่งงานของตัวเองทั้งนั้น แต่กว่าจะเป็นงานที่สมบูรณ์แบบ สาวๆหลายท่านต้องปาดเหงื่อกับการจัดการชีวิตตัวเอง ก่อนแต่งงาน แบบวินาทีสุดท้าย ก็อย่างว่า “วันแต่งงานคือวันที่สำคัญที่สุดของชีวิต” ดังนั้นใครคิดจะแต่ง ควรอ่านก่อน….คู่มือสำหรับเจ้าสาวคนสวย
การเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวในวันแต่ง ไม่ได้เตรียมกันวันสองวันจะออกมาดี ถึงคุณจะมีผู้ช่วยมากมาย แต่คนที่เหนื่อยที่สุดก็หนีไม่พ้นเจ้าสาวอยู่ดี และถือเป็นงานสุดหิน ที่ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วงานจะผ่านไปอย่างง่ายๆ เพราะมีหลายเรื่องที่คุณต้องคำนึง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแบบชุดเจ้าสาว การเลือกทรงผม ช่างแต่งหน้า สถานที่แต่งงาน เชิญแขกที่มาร่วมงาน เลือกแบบการ์ดเชิญงานแต่ง ของชำร่วย ช่างภาพ และอื่นๆอีกมากมาย ไม่เพียงแค่นี้ ไหนจะเรื่องการถ่ายพรีเวดดิ้ง เพื่อนำภาพมาโชว์ในงานเพียงแค่วันเดียว บางคนต้องเตรียมมาเกือบปี ใช้เงินเกือบล้านบาท แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณเริ่มเตรียมตัวเรื่องความสวยความงามตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อวางแผนเรื่องเงิน และงานให้ออกมาดีที่สุด

6 เดือน แรก :
- กำหนดค่าใช้จ่ายคร่าวๆ : สำหรับใช้เพื่อความสวยความงาม สำหรับงานแต่ง ทั้งเรื่องช่างแต่งหน้า ทำผม ค่าชุด รวมถึงค่าใช้จ่ายการเข้าคอร์สเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นคอร์สนวดหน้า นวดตัว ขัดผิว ลดน้ำหนัก และการทำทรีตเม้นต์ด้วยล่ะ
- หาธีมงานแต่ง : ในช่วงนี้คุณควรเริ่มหาแรงบันดาลใจสำหรับพิธีแต่งงานในฝัน เช่นการเปิดหนังสือหาแบบชุดแต่งงานที่ชอบ การคัดเลือกธีมงานแต่งที่อยากจะให้เป็น
- วางแผนออกกำลังกาย: ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำบ้างไม่ทำบ้าง หรือไม่เคยออกกำลังกายเลย แต่ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่คุณต้องวางแผนออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะการมีแพลนออกกำลังกายที่ดีไม่เพียงทำให้คุณกลายเป็นเจ้าสาวหุ่นดี ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับศึกหนักในวันแต่งงาน แต่การออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียดและทำให้คุณสดใสและรู้สึกดีสุดๆ ในวันแต่งงานอีกด้วย แต่ต้องทำเป็นประจำจนก่อนถึงวันแต่ง
- จัดการเรื่องชุดแต่งงาน : มองหาร้านที่สนใจ ลองชุด และมัดจำชุด จะได้รู้ว่าควรลดน้ำหนักอีกเท่าไหร่ ถึงจะใส่ออกมาดูดีที่สุด

4-5 เดือน ก่อนงาน :
- มองหาร้านแต่งหน้าทำผม : พร้อมกับหาช่างแต่งหน้าที่มีฝีมือถูกใจเรา พร้อมกับการตรวจสอบราคา ว่าอยู่ในวงเงินที่เราวางไว้หรือไม่
- ตัดสินใจเลือกร้านและนัดหมาย : ตัดสินใจว่าเราจะไปแต่งหน้าทำผมที่ร้าน หรือว่าจะนัดให้ช่างทำผมมาทำให้ที่งานเลย จะได้วางแผนจองห้องสำหรับแต่งตัวเจ้าสาว เพราะจะเกี่ยวผันกับเรื่องค่าใช้จ่าย
- จัดระเบียบเรื่องผิวและฟันให้ดี : เช่นใครที่ดัดฟัน ควรปรึกษาหมอฟันว่าสามารถเอาออกได้ก่อนงานแต่งหรือไม่ และควรตรวจดูสุขภาพฟัน ให้ขาวสวย เพราะเวลาถ่ายรูปจะได้ออกมาไม่มีที่ติ สำหรับเรื่องผิวพรรณควรทากันแดดก่อนออกจากบ้านเป็นประจำ และพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด รวมถึงมั่นบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ

2-3 เดือน ก่อนงาน :
- เช็คสภาพผิวหน้า : ผิวหน้าถือเป็นส่วนสำคัญที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเป็นวันสำคัญแบบนี้ หากเป็นสิวควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อทำการลบรอยบนใบหน้า เพราะเรื่องของรอยแดง รอยดำ หลุดสิว จำเป็นต้องใช้เวลานาน บางคนต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน ซึ่งในช่วงนี้ควรเข้าคอร์สเสริมสวยเดือนละ 2 ครั้ง หากเป็นหนักควรดูแลต่อเนื่องอาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้หน้าเรียบเนียนก่อนแต่ง 1 เดือน
- ควบคุมน้ำหนัก : สาวๆที่ค่อนข้างอวบจนไปถึงอ้วน ควรหลีกเลี่ยงการทานของมันและแป้งให้ปริมาณมากๆ และมั่นควบคุมน้ำหนักอย่างจริงจัง และจำเป็นต้องออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายฟิตกระชับ
- อยากลองอะไรใหม่ๆ ให้ทำเลย : เช่นถ้าอยากจะเปลี่ยนทรงผม หรือว่าเปลี่ยนสีผมใหม่ ให้ลองใช้เวลาช่วงนี้ทำไปก่อน ถ้าสวยก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าไม่เวิร์ค อย่างน้อยก็มีเวลาแก้ไขทัน ก่อนจะถึงวันงาน

1 เดือน ก่อนงาน :
- ลองชุดแต่งงานอีกรอบ : ลองดูว่าชุดที่เราจัดเตรียมไว้ ยังคงใส่ได้หรือไม่ หรือต้องเก็บส่วนไหนบ้าง และเช็คดูตำหนิของชุดอีกครั้งอย่างละเอียด
- งดการแต่งหน้าจัด : ในช่วงนี้ควรเน้นการทำความสะอาดผิวหน้าให้ดีที่สุด ตั้งแต่ขั้นตอนการเช็คเครื่องสำอางที่เราแต่งอยู่เป็นประจำ การล้างหน้า และพยายามทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นมากที่สุด ซึ่งดูแลผิวได้โดยการมาร์คหน้าให้บ่อยขึ้น เป็นอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

1-2 สัปดาห์ ก่อนงาน :
- ดูแลตัวเองเป็นพิเศษ : เช่น เข้าสปาร์ แวกซ์ขน นวดผ่อนคลาย และย้อนสีผมให้สีเดียวกันทั้งหัว ตั้งแต่โคนผมยันปลายผม เน้นทำทรีทเม้นท์ชุดใหญ่ที่ร้านทำผม เพื่อบำรุงเส้นผมให้สรวยที่สุด เพราะถ้ามาทำก่อน 1 อาทิตย์อาจจะยุ่งๆเรื่องงานหลายอย่าง
- พยายามอย่าเครียด : ช่วงนี้เจ้าสาวหลายคนเริ่มกระวนกระวายกลัวงานจะออกมาไม่ดี ทำให้เกิดความเครียด ซึ่งจะส่งผลต่อผิวหน้า สิว ดังนั้นจึงควรเตรียมทุกอย่างตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เครียดในช่วงใกล้ๆ และควรระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ เช่นหกล้ม ถลอก เพราะจะทำให้เกิดรอยฟกช้ำ
- มาร์กหน้าเป็นประจำ : นอกจากจะเข้าคอร์สเสริมสวยแล้ว ก็ควรทำเองที่บ้านด้วย แต่อย่าให้ถี่จนเกินไป ควรจะอาทิตย์ละ 3 ครั้ง
- คุยเรื่องโทนการแต่งหน้าอีกครั้ง : ถึงก่อนหน้านี้จะมีตกลงเรื่องการแต่งหน้ากันแล้ว แต่ช่วงใกล้ๆแบบนี้ เราต้องให้ช่างซ้อมแต่งหน้าทำผมให้เราก่อน เพื่อดูว่าเหมาะกับเรามั้ย

1-2 วัน ก่อนงาน :
- เข้าร้านทำเล็บ : ตัดเล็บให้เรียบร้อย ถ้าไม่ได้เลือกแบบเล็บที่ยุ่งยากมาก ก็ควรจะทาเล็บให้เสร็จเลยภายในช่วงเวลานั้น แล้วก็ควรจะมีสียาทาเล็บนั้นๆ ติดตัวไปในวันงานด้วย เผื่อว่าเกิดการลอก หรือหลุดไป จะได้เติมได้ทันท่วงที
- สระผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนวันงานแต่งงาน เพราะผมที่สกปรกหน่อย คือผมที่จัดทรงง่ายและอยู่ทรงกว่าผมที่เพิ่งผ่านการสระใหม่ๆ
- นัดหมายกับช่างเสริมสวยอีกครั้ง : ควรนัดเวลาว่าจะทำกี่ชั่วโมง แล้วเราต้องเตรียมอะไรบ้าง เช่นต้องบำรุงผมด้วยครีมอะไรก่อนหรืิไม่ เพื่อให้วันงานจะได้จัดทรงง่ายสุด
- มาร์คหน้าในช่วงกลางคืน แต่ต้องให้แน่ใจด้วย ว่าไม่มีอาการแพ้มาร์คตัวนั้น
ที่มา : healthyawake